วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เปิดเซฟ “สารวัตรเอี๊ยด“ คดีหมิ่นเบื้องสูง เจอสมบัติพร้อมรถยนต์ “พงพัฒน์“

เปิดเซฟ “สารวัตรเอี๊ยด“ คดีหมิ่นเบื้องสูง เจอสมบัติพร้อมรถยนต์ “พงพัฒน์“

เปิดเซฟ “สารวัตรเอี๊ยด“ คดีหมิ่นเบื้องสูง เจอสมบัติพร้อมรถยนต์ “พงพัฒน์“
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ตำรวจอึ้งค้นรัง "" ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง พบทรัพย์สิน อาวุธ และรถยนต์เพียบ หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์
ความคืบหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตรวจพบว่ามีกลุ่มบุคคลร่วมกันกระทำความผิดโดยมีพฤติการณ์แอบอ้างหรือแสดงออกในลักษณะต่างกรรม ต่างวาระกัน เพื่อให้ประชาชนหรือบุคคลโดยทั่วไปเข้าใจว่าตนเองมีความใกล้ชิดกับสถาบันเบื้องสูง และได้เรียกหรือรับผลประโยชน์กับการดำเนินการดังกล่าว
รวมทั้งกระทำความผิดตามกฎหมายอื่นๆ อีกหลายฐานความผิด ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันและความเสียหายอื่นๆ ในวงกว้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหารได้ใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลและควบคุมตัวไว้
ซึ่งจากการซักถามพบว่ามีมูลกระทำความผิดจริง จนนำไปสู่การออกหมายจับกุมนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง อายุ 53 ปี นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท อายุ 39 ปี เลขาฯหมอหยอง ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อายุ 44 ปี ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง, มีใช้ซึ่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
จากนั้น นำตัวไปขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพฝากขังผลัดแรก 12 วัน ก่อนส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นรถยนต์หรู บิ๊กไบค์ รถจักรยานยนต์นำขบวน บ้าน และคอนโดฯหรู ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดหลังจากตำรวจชุดคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม นำกำลังบุกค้นที่คอนโดมิเนียมลาเมซอง คอนโดมิเนียมหรู 21 ชั้น ในซอยพหลโยธิน 24 ที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม และตรวจพบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 30 คัน โดยรถยนต์ 1 คันในจำนวนนั้นเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)
ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกดำเนินคดีข้อหาแอบอ้างสถาบันฯเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ไปแล้วพร้อมเครือข่าย แต่รถคันดังกล่าวไม่ได้มีการตรวจยึด เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวไปอยู่ในความครอบครองของ พ.ต.ต.ปรากรมได้อย่างไร
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจพบตู้เซฟภายในห้องพักของ พ.ต.ต.ปรากรม เมื่อเปิดออกดูพบอาวุธปืนจำนวน 10 กระบอก ประกอบด้วย ปืนเอ็ม 16 (M16) ปืนเอ็มพีไฟว์ (MP5), ปืนทาโวร์และพระเครื่องจำนวนมาก ซึ่งเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ที่ไม่ได้ทำการตรวจยึด รวมถึงนาฬิกายี่ห้อดังอีกจำนวนมากอยู่ภายในตู้เซฟ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดเอาไว้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำอาวุธปืนเหล่านี้ส่งตรวจสอบที่กรมสรรพาวุธว่าเป็นทรัพย์สินของทางราชการหรือไม่ ส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์เพื่อพิสูจน์ทราบต่อไป
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น รถนำขบวนที่มาอยู่ในความครอบครองของ พ.ต.ต.ปรากรมนั้นเป็นรถช่วงที่ พ.ต.ต.ปรากรมรับราชการ ได้ทำหนังสือประสานขอเบิกรถนำคันดังกล่าวมาจากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบมาใช้ ซึ่งในส่วนนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอข้อมูลและสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์สินตามที่พักของผู้ทั้งหาทั้ง 3 ราย ทั้งนี้ อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้ โดยในส่วนของ พ.ต.ต.ปรากรม หรือสารวัตรเอี๊ยด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในคอนโดฯลาเมซอง ซอยพหลโยธิน 24 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ซึ่งเป็นที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม
อย่างไรก็ดี ในส่วนของพระเครื่องที่ตรวจพบและได้ทำการยึดมานั้น ส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องในกลุ่มพระเบญจภาคี โดยพบว่ามีพระสมเด็จวัดระฆัง 2 องค์ พระสมเด็จนางพญา รวมถึงพระเครื่องมีชื่อราคาแพงหลายรายการ ทั้งนี้ ของกลางทั้งหมดของ พ.ต.ต.ปรากรมที่ยึดได้จะนำไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยง ที่มาที่ไปว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่
โดยในส่วนของอาวุธปืนของ พ.ต.ต.ปรากรมที่ตรวจยึดมาได้ จะนำไปยิงทดสอบเพื่อเก็บประวัติว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆ หรือไม่ เช่นเดียวกับทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ต้องนำไปตรวจสอบที่มาที่ไปว่าได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่เช่นกัน
ขณะนี้ทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้ตรวจยึดมาได้ เบื้องต้นถูกเก็บรักษาไว้ที่สถานที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์แห่งหนึ่ง ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ขอบคุณภาพและที่มาจาก มติชนออนไลน์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น