This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สุดยอดอาหารบำรุงสมอง

สุดยอดอาหารบำรุงสมอง

 คืออวัยวะสำคัญที่มีผลต่อความคิด สติปัญญา และความสามารถ หากสมองขาดการใช้งานและการบำรุงรักษา สมองของเราก็อาจจะเฉื่อยชา และเสื่อมประสิทธิภาพในที่สุด

อาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง 

1. ดื่มชาสด วันละ 3 ถ้วยจะทำให้สมองได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น ช่วยให้มีสมาธิและพัฒนาความจำ
2. น้ำทับทิม มีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันไม่ให้สมองถูกทำลายง่ายๆ
3. บลูเบอรี่ ช่วยเพิ่มความจำ ลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ และช่วยให้เราเรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น
4. อโวคาโด มีไฟเบอร์สูงช่วยบำรุงสมอง และช่วยลดน้ำตาลในกระแสเลือด ทำให้การหมุนเวียนเลือดมีประสิทธิภาพ
5. แซลมอลธรรมชาติ อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็น มีโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อสมอง เกี่ยวพันกับสติปัญญา ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า พัฒนาความจำ และลดการเกิดโรคสมาธิสั้นได้

ที่มา : wwwmd.com

เรียนอย่างไรให้จบเร็ว สำหรับคนเรียนมหาวิทยาลัย

เรียนอย่างไรให้จบเร็ว สำหรับคนเรียนมหาวิทยาลัย


เคล็ดลับการเรียน
เรียนอย่างไรให้จบเร็ว จบทันตามเวลาที่กำหนด
ความจริงแล้วการเรียนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกไม่ได้อยากอย่างที่หลายคนกลัว เพราะในเวลาเรียนก็ไม่ได้แตกต่างกับการเรียนในระดับปริญญาตรีเท่าใดนัก เพียงแต่นักศึกษาอาจต้องเพิ่มความรับผิดชอบในการศึกษาหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆตามที่อาจารย์มอบหมายงานให้ทำและขยายความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองให้กว้างไกลและลึกซึ้งยิ่งขึ้น มากกว่าที่จะแสวงหาความรู้เฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น
ถ้าจะว่าไปแล้ว เหตุผลสำคัญที่สุดที่จะทำให้นักศึกษาเรียนจบช้า หรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับผลสำเร็จของงานวิทยานิพนธ์ตัวเดียวเท่านั้น ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จได้ทันและจบตาม
เวลาที่กำหนด
เคล็ดลับที่ไม่ใช่ความลับ ที่น่าจะเรียกว่า เป็นคาถาของการเรียนในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ก็คือ ต้อง ขยัน อดทน ไม่ถอดใจ
1.ขยัน ศึกษาค้นคว้าและต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่าให้ขาดตอนหรือเว้นวรรคนานๆเพราะจะทำให้ต่อไม่ติด จะก่อให้เกิดความเกียจคร้าน อ่อนล้า ท้อถอยและอาดหมดกำลังใจที่จะเรียนต่อไป
2. อดทด กับภาระงาน อดกลั้น และควบคุมอารมณ์ เปิดใจให้กว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น(อาจารย์ที่ปรึกษา) เมื่อใดที่รู้สึกท้อ เพราะต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆมากมายที่ถาโถมเข้ามาอย่างเหลือจะรับได้ ก็ควรหยุดพักเพื่อถอยมาตั้งหลักใหม่อีกครั้งเมื่อสภาพจิตใจดีขึ้น
3. ไม่ถอดใจ ยอมแพ้บอกเลิกลาไปแบบคนไม่มีทางสู้ให้เสียศักดิ์ศรี และอดสูใจ กับคำว่า "เรียนไม่จบ" อย่างน้อยที่สุดคำว่า "จบแน่แม้จะช้าไปหน่อย" ก็ยังจะดีเสียกว่าพยายามปรับอารมณ์เรียกความรู้สึกฮึดสู้ให้กลับมาโดยเร็ว(สู้โว้ย! เรียนแล้วต้องจบ)
อารมณ์ถอดใจมักจะเกิดในช่วงทำวิทยานิพนธ์นี่เอง ถ้าผ่านไปได้ก็ไม่มีอะไรเกินความสามารถ ค่อยเป็นค่อยไป (กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว) แล้วทำวิทยานิพนธ์อย่างไรที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ การวางแผนการทำงานที่รัดกุมรอบคอบจึงเป็นหัวใจสำคัญ อย่าลืมว่า "การวางแผนที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง"
1. แผนการทำวิทยานิพนธ์ให้ประสบความสำเร็จ
การวางแผนการทำวิทยานิพนธ์ที่ดี ควรปฏิบัติดังนี้
1. จัดทำแผนปฏิบัติงานเป็น Schedule ของตนเองเทียบเคียงกับแผนการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาสมัครเรียน (ให้มีเวลาว่างเหลือเผื่อไว้ในช่วงท้ายๆอย่างน้อย 1 ภาคเรียน เผื่อเกิดปัญหาฉุกเฉินที่อาจจำเป็นต้องปรับปรุงงาน)
2. คัดเลือกและเตรียม "หัวข้อวิทยานิพนธ์" ไว้ล่วงหน้า ตามที่ตนสนใจ พร้อมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ของการนำไปปฏิบัติจริง ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และหรือต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. คัดเลือกอาจารย์ที่ปรึกษา (ถ้าสามารถเลือกได้)โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจารย์ที่ปรึกษาหลัก ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับอาจารย์ให้ละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือก เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอาจารย์ที่ปรึกษาในภายหลังได้ เพราะ"การสื่อสารที่ดีย่อมเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
4. ควรให้เกียรติเคารพเชื่อฟังและยอมรับฟังความคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะของอาจารย์ที่ปรึกษาด้วยความสงบ สุขุม เยือกเย็น อาจมีบางครั้งที่จะรู้สึกว่าความคิดเห็นแตกต่างและคัดแย้งกับความรู้สึกของเรา ก็ต้องคอยควบคุมความรู้สึก และระงับอารมณ์ไว้ให้ได้ก่อนที่จะขออนุญาตชี้แจงด้วยเหตุและผลที่เหมาะสมอย่างสุภาพ เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน และปฏิบัติตามที่อาจารย์ได้ให้คำชี้แนะ (อย่าเบี่ยงเบนความสนใจไปให้ความสำคัญกับบุคคลอื่นมากกว่าอาจารย์ที่ปรึกษาของตนเอง)
5. ให้ความสำคัญกับการนัดหมาย เพื่อขอคำแนะนำปรึกษา แก้ไขงานและส่งงานกับอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างเคร่งครัด เพื่อแสดงสปิริตในความเป็นผู้มีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา
2. วิธีดำเนินการจัดทำวิทยานิพนธ์
วิธีดำเนินการจัดทำวิทยานิพนธ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรมีขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมหัวข้อวิทยานิพนธ์ (ต้องได้หัวข้อวิทยานิพนธ์ที่ผ่านความเห็นชอบจาก
อาจารย์แล้ว)
2. ปรึกษากับคณะอาจารย์ที่ปรึกษาของเราเพื่อให้ได้ Concept ของงานที่ตรงกัน
(หัวข้อ/วัตถุประสงค์/ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง/วิธีดำเนินการ เวลาและพื้นที่การศึกษา ตลอดจนแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง)
3. สำรวจพื้นที่ศึกษา(สภาพปัจจุบัน/ปัญหา/แนวทางและวิธีแก้ปัญหา)
4. ทบทวนวรรณกรรม(ค้นหางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่สัมพันธ์
กับงานของเรา)
อย่าลืม! จดบันทึกแหล่งอ้างอิงโดยละเอียด (รวมถึงเลขหน้าที่อ้างอิง) ทั้งที่เอามาจากงานเขียนต่างๆ หรือจาก www.ใดๆทาง internet ไว้ด้วยทุกครั้ง
5. กำหนดแผนการและขั้นตอนในการปฏิบัติงาน(ระเบียบวิธีวิจัย) ปฏิบัติงาน
และเขียนรายงานให้ครบตามขั้นตอนการดำเนินการดังที่ได้กำหนดไว้แล้ว
6. นำเสนอความก้าวหน้าของงาน ขอคำแนะนำปรึกษาจากอาจารย์ที่ปรึกษาเป็น
ระยะๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงและพัฒนางานให้มีถูกต้องและเหมาะสม จนกว่าจะแล้วเสร็จและได้วิทยานิพนธ์ที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
7. เตรียมเผยแพร่ผลงาน เขียนรายงานสรุปวิทยานิพนธ์(ฉบับย่อ) หาเวที
นำเสนอผลงาน เพื่อเผยแพร่และตีพิมพ์บทความลงในวารสารวิชาการที่ สกอ.รับรอง
8. สุดท้ายคือสอบจบ ต้องสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ให้ผ่าน ถึงจะมีสิทธิ์ส่งเล่ม
วิทยานิพนธ์ที่สมบูรณ์ (มาถึงขั้นนี้แล้วยังไงก็ต้องจบ)
ก่อนสอบ ควรหาโอกาสเข้าสังเกตการณ์นักศึกษาที่สอบก่อนเรา(หลายครั้งได้ยิ่งดี) เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวสอบของเราให้ได้มากที่สุด
9. สำเร็จการศึกษาทันตามเวลาที่กำหนด จบช้าหรือจบเร็ว ย่อมขึ้นอยู่กับความ
ขยัน อดทน ไม่ถอดใจ ของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ 

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้รักการศึกษาทุกท่าน จงประสบความสำเร็จในการศึกษา
สมดังที่ตั้งใจค่ะ .....ต้องสู้! ต้องสู้! ถึงจะชนะ.....
ที่มา drsangiam

ไฮโซสุด ห้องสมุดวิศวะจุฬา น่านอนมาก!

ไฮโซสุด ห้องสมุดวิศวะจุฬา น่านอนมาก!

เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์ กับภาพห้องสมุดสุดไฮโซ ที่เฟซบุ๊ก Faculty of Engineering, Chulalongkorn University เฟซบุ๊กของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำภาพวันเปิดห้องสมุด "Chula Engineering LIBRARY" ศูนย์กลางแห่งความรู้เพื่อเป็นประโยชน์ กับนิสิตนักศึกษา
แต่ละจุดในห้องสุมดของคณะฯ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจ มีคอนเซ็ปต์ Smart Library เพื่อตอบสนองความพึงพอใจและรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยAdvanced Technology เข้ามาตอบสนองความต้องการทำงานเป็นกลุ่มหรือประชุมในห้องสัมนากลุ่มย่อย และเรียนรู้ผ่านสื่อมีเดีย ตลอดจนพื้นที่สืบค้น อ่านหนังสือ และที่พักผ่อน พบปะสังสรรค์ เพื่อเสริมสร้างความคิด และการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทางวิชาการ เพื่อพัฒนาคณะ พัฒนาการศึกษาเพื่อสังคมไทยตามวัตถุประสงค์ของกองทุนนวัตกรรมวิศวฯ จุฬาฯ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Facebook ChulaEngineering  

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

“หมอหยอง“ เสียชีวิตแล้ว ติดเชื้อในกระแสเลือด 7 พ.ย.

“หมอหยอง“ เสียชีวิตแล้ว ติดเชื้อในกระแสเลือด 7 พ.ย.

“หมอหยอง“ เสียชีวิตแล้ว ติดเชื้อในกระแสเลือด 7 พ.ย.
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(แฟ้มภาพ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 พ.ย. ) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าว ยืนยันนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ  หมอดูชื่อดัง ( ย้อนเวลา รู้จักหมอหยอง หมอดูชื่อดังในอดีต ) ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 เสียชีวิตแล้ว จากติดเชื้อในกระแสเลือด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ย.58 ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. ที่ รพ.ราชทัณฑ์ ล่าสุด แจ้งญาติรับศพแล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. หมอหยอง ที่มีอาการป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง กลับจาก รพ.ราชทัณฑ์ ไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี หรือ มทบ.11 แล้ว หลังมีอาการดีขึ้นภายหลังจากการพบแพทย์ และทำการตรวจอาการ
โดยจากการสอบปากคำ นายสุริยัน ได้ให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้เป็นร่างทรงของเจ้าแม่พันปี หลวงปู่ หรือองค์พระพิฆเนศแต่อย่างใด โดยอุปโลกน์อ้างว่ามีร่างทรงเพราะมีเจตนาหลอกลวงหารายได้จากความเคารพศรัทธาของประชาชน

ลำดับเหตุการณ์ห้วงเวลาก่อน ‘หมอหยอง‘ เสียชีวิต

ลำดับเหตุการณ์ห้วงเวลาก่อน ‘หมอหยอง‘ เสียชีวิต

ลำดับเหตุการณ์ห้วงเวลาก่อน ‘หมอหยอง‘ เสียชีวิต
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(9 พ.ย.) กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ออกหนังสือแถลงข่าว กรณี นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอดูชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เสียชีวิต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รมว.ยุติธรรม ยืนยัน "หมอหยอง" เสียชีวิตแล้ว ติดเชื้อในกระแสเลือด)
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ได้ทำการชันสูตร โดยลงความเห็นว่า สันนิษฐานว่า ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากติดเชื้อในกระแสโลหิต ซึ่งทางเรือนจำจะแจ้งให้ญาติผู้เสียชีวิตมารับศพไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป ทั้งนี้ ในหนังสือแถลงข่าว ได้มีการสรุปเหตุการณ์ไว้ โดยมีดังต่อไปนี้
22 ต.ค. หมอหยอง ถูกส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอก หลังจากมีอาการโรคความดันกำเริบ ผลการตรวจของแพทย์ปรากฏว่า ไม่พบความผิดปกติ กะโหลกศีรษะไม่แตก แต่น่าจะเป็นการแกล้งทำ และไม่พบว่ามีอาการอย่างอื่น จึงส่งตัวกลับคืนเรือนจำชั่วคราว 24-25 ต.ค. อาการปกติ
29 ต.ค. หมอหยอง มีอาการปวดศีรษะ ปวดท้องด้านขวา ท้องอืด เวียนศีรษะ ตอบคำถามได้ค่อนข้างช้า ทางเรือนจำชั่วคราวจึงส่งไปรักษาในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เวลา 21.30 น. ผลการตรวจพบว่า ความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันพอกตับ ประกอบมีความเครียดและวิตกกังวล
31 ต.ค. ถูกส่งตัวกลับที่คุมขังที่เรือนจำชั่วคราว หลังอาการป่วยดีขึ้น
5 พ.ย. ต่อเนื่องถึงวันที่ 6 พ.ย. หมอหยองมีอาการไข้สูงกระสับกระส่าย ไอ พยาบาลเสนารักษ์ประจำเรือนจำ จ่ายยาลดไข้ ยาลดอาการไอ แล้วให้นอนพัก
7 พ.ย. เมื่อเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่เวรไปตรวจ พบว่าผู้ต้องขังมีอาการเรียกไม่รู้สึกตัว หายใจเฮือกยาว เสนารักษ์ จึงแจ้งให้นำส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที
เมื่อไปถึงแพทย์เวรได้พยายามช่วยชีวิตตามหลักเกณฑ์และจรรยาบรรณทางวิชาชีพ ทำกระบวนการฟื้นคืนชีพ (Advanced CPR: Cardio Pulmonary) ใช้เวลาดำเนินกระบวนการ ตั้งแต่แรกพบตัว โดยใส่ท่อช่วยหายใจ ปั๊มหัวใจ ให้ยากระตุ้นหัวใจและความดันโลหิต ฯลฯ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวนท้องที่มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับความเป็นไปได้ที่จะมีเชื้อที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันทีอย่างรวดเร็ว จากการสอบถามแพทย์ระบุว่า ในกรณีของ หมอหยอง มีความเป็นไปได้ที่อาจมีภูมิต้านทานอ่อนแอ โดยตรวจพบจากการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่า มีภาวะไขมันสะสมในตับสูง
ประกอบกับผลการตรวจเลือดขณะทำ CPR เมื่อวันที่ 7 พ.ย. พบมีเอนไซม์การทำงานของตับสูง ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดพบว่า มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ มีเพียง 60,000 คิวบิกมิลลิเมตร (ค่าปกติ 140,000-400,000 / คิวบิกมิลลิเมตร)
สันนิษฐานว่าเมื่อได้รับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือดเข้าไป จึงอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม

อดีตสามีอุ้มสาวขังบ้านพักข้าราชการ ใส่กุญแจมือข่มขืนยับ

อดีตสามีอุ้มสาวขังบ้านพักข้าราชการ ใส่กุญแจมือข่มขืนยับ

อดีตสามีอุ้มสาวขังบ้านพักข้าราชการ ใส่กุญแจมือข่มขืนยับ
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 พ.ย.) เมื่อเวลา 05.20 น. สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งจากยามเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ว่ามีหญิงสาวเดินมาขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกจับมาซ้อมและข่มขืน
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.น้ำฝน (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี นั่งร้องไห้อยู่ข้างป้อมยามของเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ในสภาพหน้าตาอิดโรย ร้องไห้จนตาบวมปูด จึงพามาแจ้งความที่ สภ.เมืองอ่างทอง
จากการสอบสวน น.ส.น้ำฝน กล่าวว่า ตนทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านมาลงรถที่ จ.สิงห์บุรี จู่ๆ นายประเสริฐ (นามสมมุติ) ของตน ซึ่งทำงานอยู่ที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งใน จ.อ่างทอง ได้มาฉุดตนขึ้นรถพา แล้วพามาขังใส่กุญแจมือไว้ที่บ้านพัก ภายในหน่วยราชการแห่งหนึ่ง ใกล้กับเรือนจำจังหวัดอ่างทอง
จากนั้นก็ได้จับตนแก้ผ้าและลงมือข่มขืน แม้ตนจะอ้อนวอนก็ไม่ยอม แถมเอาปืนขึ้นมาขู่อีก และที่สำคัญอดีตสามีเก่าได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปตน ขณะถูกเขาแก้ผ้าและข่มขืนด้วย พอเขาข่มขืนเสร็จก็เอากุญแจมือออก และข่มขู่ตนห้ามออกจากห้อง ก่อนเขาจะหลับไปเพราะความเพลียและความเมา ระหว่างนั้นตนจึงได้ฉวยโอกาสหนีออกมาขอความช่วยเหลือ
น.ส.น้ำฝน กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนได้อยู่กินกับนายประเสริฐ แต่มักจะถูกทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ จนทนไม่ไหวขอเลิก แต่ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน เนื่องจากนายประเสริฐไม่ยอมหย่า ซึ่งหลังจากบอกเลิก ตนได้ไปมีสามีใหม่ ส่วนนายประเสริฐก็ไปมีภรรยาใหม่เช่นกัน และถึงแม้ว่าต่างคนจะต่างมีแฟนใหม่ นายประเสริฐก็ยังไม่ยอมเลิกกับตน ยังตามตอแยอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา นายประเสริฐก็ยอมหย่าให้ โดยบอกว่าเขาจะซื้อรถใหม่ไม่อยากให้ตนมีข้อผูกพัน ตนดีใจมากที่ได้หย่า ซึ่งหลังจากหย่าก็ได้ไปอยู่กับสามีใหม่มาโดยตลอด จนเมื่อคืนนี้ตนก็ถูกจับมาขังและถูกซ้อม ถูกข่มขืนถ่ายคลิปไว้อีก ส่วนสามีใหม่ของตนก็รู้แต่ช่วยไม่ได้ เพราะอดีตสามีเก่าขู่จะฆ่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายของ นส.น้ำฝน พบว่าที่บริเวณลำคอมีรอยแดง เป็นจ้ำๆ อยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อสอบถาม นส.น้ำฝน เปิดเผยว่า ร่องรอยที่เห็นนั้นเกิดจากสามีเก่าเป็นคนทำขณะที่ข่มขืน โดยบอกว่าจงใจจะทำให้รอยจ้ำแดงเกิดขึ้น เพื่ออยากให้สามีใหม่ของ นส.น้ำฝน ได้เห็น
เบื้องต้น หลังจากทำการสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้พาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.อ่างทอง ก่อนให้ชุดสืบสวน ติดตามตัวอดีตสามีมาสอบสวน และแจ้งข้อหาตามขั้นตอนต่อไป

ตำรวจยังล่าตามตัว “แม่ผัว“ สั่งฆ่าว่าที่สะใภ้ ศาลชี้ตายปลอม

ตำรวจยังล่าตามตัว “แม่ผัว“ สั่งฆ่าว่าที่สะใภ้ ศาลชี้ตายปลอม

ตำรวจยังล่าตามตัว “แม่ผัว“ สั่งฆ่าว่าที่สะใภ้ ศาลชี้ตายปลอม
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
จากกรณีที่ศาลฎีกาจังหวัดสงขลา ได้มีคำสั่งไต่สวนการเสียชีวิตของ นางจุรี จันทร์งาม ผู้ต้องหาว่าจ้างวานฆ่า นางสาวริ้วแพร เภสัชกรสาว ที่กำลังจะแต่งงานกับลูกชายของนางจุรี ภายหลังพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารใบมรณบัตร ระบุว่า นางจุรี ได้เสียชีวิตลงที่ จ.ชุมพร และมีการจัดงานศพเรียบร้อยแล้ว และพบข้อเท็จจริงว่า นางจุรี น่าจะยังมีชีวิตอยู่
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.สงขลา ได้นำหมายศาลเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่งที่ อ.คอหงส์ หลังมีพยานให้ข้อมูลว่า พบเห็นคนลักษณะคล้ายกับ นางจุรี แวะเวียนมาที่บ้านดังกล่าวเป็นบางครั้งคราว เนื่องจากภรรยาเจ้าของบ้านมีศักดิ์เป็นน้องสาวของนางจุรี อีกทั้งยังพบเห็น ลูกสาวของนางจุรี มักเข้าออกที่บ้านหลังนี้อย่างระแวดระวังเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ นางสาวรัศมี ลูกสาวของนางจุรี ได้ออกมารับหมายศาลขอตรวจค้น พร้อมกับปฏิเสธว่าแม่ไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และยืนยันว่าแม่ได้เสียชีวิตไปแล้วจริงๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็ไม่พบเบาะแสใดๆ เกี่ยวข้องกับ นางจุรี
ขณะที่ทางด้าน แม่ของนางสาวริ้วแพร ผู้เสียชีวิต ได้เข้าร้องเรียนกับทางกองปราบปรามฯ เพื่อให้ติดตามคดีความและเร่งดำเนินการตามตัว นางจุรี หลังพบว่าอาจจะยังไม่เสียชีวิต แม่ของเภสัชภรผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารับรู้มาว่า แม่ของแฟนลูกสาวกีดกัน เพราะคิดว่ามีฐานะยากจน ถึงขั้นประกาศกร้าวว่า "ถ้ามีงานแต่ง ก็จะต้องจัดงานศพแทน"
แม่ของผู้เสียชีวิต ยังเล่าถึงนาทีที่ได้คุยโทรศัพท์กับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย หลังลูกโทรมาระบายและบอกว่าเหตุการณ์เริ่มรุนแรง เริ่มจะทนไม่ไหว อีกฝ่ายคุกคามอย่างหนัก ก่อนจะได้ยิงเสียงได้ "ปัง" จากปลายสาย ไม่คิดว่าจะเป็นเสียงคนร้ายยิงปืนใส่ลูกสาว กระทั่งมีคนมาตามให้ไปตรวจสอบ ลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว รวมทั้งเด็กที่อยู่ครรภ์ด้วย
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3

ญาติร่ำไห้ หนุ่มสุรินทร์ ส่วนสูง 269 เซนติเมตร สิ้นใจแล้ว

ญาติร่ำไห้ หนุ่มสุรินทร์ ส่วนสูง 269 เซนติเมตร สิ้นใจแล้ว

ญาติร่ำไห้ หนุ่มสุรินทร์ ส่วนสูง 269 เซนติเมตร สิ้นใจแล้ว
(แฟ้มภาพข่าว)
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(9 พ.ย.) หนุ่มเมืองสุรินทร์ ส่วนสูง 269 เซนติเมตร สิ้นลมหายใจไปอย่างสงบแล้ว หลังหลายโรครุมเร้าหนัก พ่อแม่สุดเสียใจ ขอบคุณสังคมที่เคยบริจาคเงินช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางเวิน แม่ของนายพรชัย เสาศรี หรือ น้องออฟ อายุ 26 ปี หนุ่มที่มีส่วนสูง 269 เซนติเมตร ที่เชื่อว่า แต่ล่าสุด น้องออฟ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา หลังจากที่ต้องทนทุกข์กับสารพัดโรคที่รุมเร้า โดยเฉพาะอาการเจริญเติบโตผิดปกติ ไม่สามารถเดินเหินไปไหนได้
แม่ของน้องออฟ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายยังคงต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านตามปกติ อาการจากโรคเจริญเติบโตผิดปกติ โรคหอบ และโรคความดัน ยังคงทรงตัว แต่อยู่ๆ อาการก็กำเริบหนักขึ้น จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลปราสาท จ.สุรินทร์ พักฟื้นราวๆ สัปดาห์ ก่อนแพทย์จะอนุญาตให้กลับมาพักต่อที่บ้านได้ โดยมีพ่อแม่และหลานสาวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา นางเวิน เล่าว่า ตนออกไปล้างจานอยู่หลังบ้าน ก่อนจะกลับมาดูลูกชาย แต่ปรากฏว่าไม่มีอาการตอบสนองใดๆ น้องออฟ เสียชีวิตแล้ว ทำให้ครอบครัวและญาติๆ ต่างรู้สึกเสียใจกับการจากไปของนายพรชัย เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการทำพิธีฌาปนกิจศพ
อย่างไรก็ตาม นางเวิน กล่าวขอบคุณสังคมที่ให้การช่วยเหลือลูกชาย หลังจากที่ข่าวถูกนำเสนอออกไป เงินบริจาคที่ได้รับมานั้น ได้นำไปชำระหนี้เงินกู้ที่นำโฉนดบ้านที่อยู่อาศัยไปจำนองไว้ และอีกส่วนใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล จัดซื้ออาหาร และเครื่องใช้ที่จำเป็นของลูกชาย กระทั่งลูกชายเสียชีวิตลงแล้ว
ทั้งนี้ ยอดเงินบริจาคยังคงเหลือประมาณ 50,000 บาท คาดว่าจะนำมาใช้จ่ายในการจัดพิธีทางศาสนาของน้องออฟต่อไป
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr

เผยใบมรณะบัตร ‘หมอหยอง‘ เผาวัดทองสุทธาราม

เผยใบมรณะบัตร ‘หมอหยอง‘ เผาวัดทองสุทธาราม

เผยใบมรณะบัตร ‘หมอหยอง‘ เผาวัดทองสุทธาราม
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 พ.ย.) จากกรณี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวยืนยัน นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ  หมอดูชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เสียชีวิต
ล่าสุด ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยภาพใบมรณะบัตรของหมอหยอง ระบุว่า เสียชีวิตเมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 7 พ.ย.2558 ที่ รพ.กลางกรมราชทัณฑ์ ระบุสาเหตุการตายไว้ว่า สันนิษฐานว่าระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากการติดเชื้อ โดยแจ้งการเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2558 
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ญาติของนายสุริยัน ได้ติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว เพื่อไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดทองสุทธาราม เขตบางซื่อ กทม.
ขอขอบคุณภาพจากทวิตเตอร์ @thaipbsnews

เจน ชมพูนุช คุณแม่หน้าเด็ก คุณลูกหน้าหล่อ

เจน ชมพูนุช คุณแม่หน้าเด็ก คุณลูกหน้าหล่อ

เจน ชมพูนุช คุณแม่หน้าเด็ก คุณลูกหน้าหล่อ
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
กลายเป็นหนูน้อยขวัญใจชาวโซเชี่ยลอีกคน สำหรับ "น้องเกรท" ลูกชายตัวน้อยของคุณแม่นักแสดง  ที่เคยคุ้นหน้ากันดีในภาพยนตร์เรื่องปอบ หวีด สยอง หลังจากแต่งงานไป และมีทายาทมาให้เชยชมเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง
เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น น้องเกรท เป็นอาตี๋น้อยหน้าตาน่ารักมากๆ โตมามีหวังเดินตามรอยคุณแม่เจนเข้าวงการบันเทิงได้สบาย ส่วนเจน ชมพูนุช ที่ถึงจะคลอดไปไม่นาน แต่กลับมาสวยและหุ่นเป๊ะได้เร็วมาก และต้องบอกว่าเป็นคุณแม่ที่หน้าเด็กมากๆ บวกกับรูปร่างที่เป็นคนตัวเล็กอยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าอายุ 33 ค่ะ
ภาพความน่ารักอบอุ่นของครอบครัวนี้ ที่เชื่อว่าแฟนๆ เห็นแล้วก็คงอดยิ้มตามไม่ได้

เครดิตภาพ IG: janechompoo
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr

หญิง รฐา ชีวิตดีบินทำงานพ่วงเวลาพักผ่อนในมัลดีฟ

หญิง รฐา ชีวิตดีบินทำงานพ่วงเวลาพักผ่อนในมัลดีฟ

หญิง รฐา ชีวิตดีบินทำงานพ่วงเวลาพักผ่อนในมัลดีฟ
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
 ชีวิตดี๊ดีบินทำงานพ่วงเวลาพักผ่อน สัมผัสสายลมและเกลียวคลื่นในมัลดีฟ 
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่หลังจากมรสุมชีวิตพัดผ่านไปแล้ว เธอกลับมาฮอตงานล้นเงินทองไหลมาเทมายกใหญ่ สำหรับ หญิง รฐา โพธิ์งาม วันนี้เธอสามารถเขยิบก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการบันเทิงได้แล้ว ต้องบอกว่ามาจากฝีมือของเธอจริๆ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้องเพลง การเต้น หรือศิลปะการแสดง จะว่าไปเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นเลยจริงๆ 
ล่าสุด หญิง รฐา ถือโอกาสพักผ่อนไปในตัวกับการเดินทางพาผู้โชคดีกับธุรกิจอาหารเสริมที่เธอเป็นเจ้าของไปเยือนทะเลมัลดีฟ และเธอไม่ลืมเก็บภาพสวยๆ มาฝากแฟนคลับเช่นเคย 
หลายคนบอกว่าที่เธอก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ และมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตนั้น เป็นเพราะเธอกตัญญต่อบุพการี...เห็นทีจะจริงนะคะ  
(ภาพจาก IG: yayaying_yayaa)
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โต้กันนัวอีก!! ‘ต๊อด’ โพสต์แรงถึง ‘หมอสมาน’ สมองพังหมดแล้ว-ผมไม่เคยรู้จักคุณ

โต้กันนัวอีก!! ‘ต๊อด’ โพสต์แรงถึง ‘หมอสมาน’ สมองพังหมดแล้ว-ผมไม่เคยรู้จักคุณ

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวแห่งหนึ่งว่า ‘ต๊อด’ ปิติ ภิรมย์ภักดี สามีนางเอกดัง นุ่น วรนุช โพสต์ต่อว่าตนเองอย่างรุนแรง เรื่องการเปิดลานเบียร์ อาจจะผิดต่อพ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โต้กันนัวอีก!! ‘ต๊อด’ โพสต์แรงถึง ‘หมอสมาน’ สมองพังหมดแล้ว-ผมไม่เคยรู้จักคุณ
new79
หลังจาก นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวแห่งหนึ่งว่า ‘ต๊อด’ ปิติ ภิรมย์ภักดี บิ๊กบริษัทบุญรอดฯ และสามีนางเอกดัง นุ่น วรนุช โพสต์ต่อว่าตนเองอย่างรุนแรง เรื่องการเปิดลานเบียร์ อาจจะผิดต่อพ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยบอกว่าอยากฝากถึงน้องที่เคยคุ้นเคยว่าการโพสต์ทำนองว่าเปิดลานเบียร์ หากผิดก็จะเสียค่าปรับให้ทุกครั้งนั้น เสมือนเป็นการท้าท้ายกฎหมายนั้น
new80
ล่าสุด ต๊อด ก็โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของหมอสมาน พร้อมข้อความโต้ตอบไปว่า “สมองพังไปหมดแล้ว ผมไม่เคยรู้จักคุณ อย่าเบี่ยงประเด็น กฎหมายกำลังเอาผิดคุณอยู่รู้ยัง สสส. กับการคอรัปชั่น ตอบมารอฟังครับ”
หลังจากก่อนหน้านั้น ต๊อด โพสต์ว่า วันนี้ผมได้ข่าวมาว่านายสมานจะมาเยี่ยมลานเบียร์ที่CTW ปกตินายคนนี้จะมาพร้อมนักข่าวประมาณ6:30-7:30 แล้วก็ชี้นั่น นู่น นี่ ผิดๆๆๆๆ แล้วก็กลับ เป็นแบบนี้มาทุกปี ให้การตอนรับนายคนนี้ด้วย
-ที่เลิกเรียกหมอ เพราะสงสารหมอท่านอื่น
-เวลาผมพูดถึงลานเบียร์ผมหมายถึงทุกเจ้า
-ที่มาเวลานี้เพราะกลัวนักดื่มจะคุมอารมณ์ไม่อยู่
******************************************************************
Update
“ต๊อด ปิติ“ โพสต์แรงถาม จะไม่ให้คนเค้าทำมาหากินกันเลยหรอ บ้าไปกันใหญ่???
new01
เป็นกระแสบนโลกออนไลน์อีกแล้วถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นประเด็นร้อนเพราะก่อนหน้านี้มีภาพของดาราแห่กันถ่ายภาพถือขวดเบียร์ยี่ห้อหนึ่งทำให้เป็นข่าวใหญ่ทั่วประเทศโดนเรียกตัวมาสอบสวนกันมากมายและล่าสุดเป็นประเด็นถึงเรื่องลานเบียร์ หลังจากที่ นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ได้ออกมาพูดถึงเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมลานเบียร์ ในช่วงปลายปีว่าอาจเข้าข่ายมีความผิดทางกฎหมายมาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551 นั้น จนกลายเป็นกระแสข่าวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง งานนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารในเครือบุญรอดฯ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า…
ผมขอเตือนเป็นคร้งสุดท้าย!!! ห้ามจัดลานเบียร์ส่อผิดกฎหมาย พูดมาตรงๆเลยว่าผิดยังไง อย่ามาส่อ มีใบประกอบกิจการ ไม่ขายให้เด็ก เปิดปิดตรงเวลา จะผิดกฎหมายตรงไหน ตอบมาดิ ถ้าผิดจริง!!! ผมยอมจ่ายค่าปรับย้อนหลัง และ ผมจะฟ้องผู้เกี่ยวข้องในข้อหา ไม่ปฎิบัติหน้าที่ ผิดวินัย ให้ออกสถานเดียว คราวที่แล้วเกาะกระแสเรื่องฉลากในวันที่19 แถลงข่าวสะใหญ่โต กฎหมายบังคับใช้วันที่20 กลับเข้ารู้ทันได้ ปิดกั้นการทำมาหากินอย่างสุจริตของผู้ประกอบกิจการร้านค้า ปิดกั้นการทำมาหากินของเหล่าศิลปิน ดารา พนักงานให้บริการจะต้องตกงานกี่แสนคนทั่วประเทศ การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลจะต้องวิบัติแค่ไหน เคยคิดกันบ้างไหม รบกวนไปทำงานต่างจังหวัดตอนนี้หน่อยนะ อยากรู้ว่าท่านจะได้กี่เบอร์ พูดถึงใคร และ เบอร์อะไร พร้อมความคิดเห็น โดนใจมีรางวัลให้ครับ
new02
ภายหลังจากที่ข่าวนี้ออกมา ทางด้านหนุ่ม ต๊อดก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า หมอๆ ผมจะจ้างดาราและนักร้อง มาวัดกันว่าใครจะอยู่ใครจะไป จะไม่ให้คนเค้าทำมาหากินกันเลยหรอ บ้าไปกันใหญ่
new03
หมอช่วยตบปากตัวเองแรงๆ3ที สันดานนี้แก้ไม่หายจริงๆ และหลังจากนั้นอีกวัน ต๊อด ก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า หมอสมาน ยืนยันว่าจัดลานเบีนร์ได้ถ้ามีใบอนุญาติ อ้าว.. นี้คนทั้งประเทศเข้าใจหมอผิดไปหรอเนี้ย ผมขอโทษ
new04new05

ที่มา : facebook.com/ton.chomphan
เรียบเรียงโดย ปังปอนน่ารัก ทีม BaaBinz.com

ข่าวทีมา : khaosod baabinz